ทะเลแหวก (เกาะไก่ – เกาะทัพ – เกาะหม้อ) : สิ่งใด ๆ ในโลกนี้ล้วนแล้วแต่หมุนเวียนเปลี่ยนผันแปรไปตามเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์สร้างไว้อย่างยุติธรรม แผ่นดินไหว ,ลมพายุ ,น้ำป่าไหลหลาก ,คลื่นยักษ์ ,ภูเขาไฟระเบิด แม้ว่าปรากฏการณ์เหล่านี้จะดูเหมือนโหดร้ายและปราศจากความปราณีต่อสรรพชีวิตอันบอบบางทั้งหลายทั้งมวล.....หากแต่แท้จริง.....กลับแฝงไว้ด้วยเรื่องราวแห่งดุลยภาพตามที่ควรจะเป็น หากลองมองในแง่มุมกลับกัน แสงเหนือ ,สายรุ้ง ,ผีพุ่งใต้ ,ผลึกหิมะ ,ทะเลหมอก ก็คือปรากฏการณ์ซึ่งก่อกำเนิดให้เกิดความสุขขึ้นภายในหัวใจของใครหลาย ๆ คนที่ได้พบเห็น.....ทั้ง ๆ ที่แท้แล้วธรรมชาติก็มิได้เคยสนใจใยดีว่าใครจะรู้สึกเช่นไร.....เพราะในความเป็นจริง.....หน้าที่ที่จะต้องเรียนรู้และปฏิบัติต่อสิ่งต่าง ๆ ซึ่งหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่งให้ถูกต้อง เหมาะสม หรือสมดุลนั้น.....เป็นหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตซึ่งอาศัยอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

    “ทะเลแหวก” หมู่เกาะปอดะ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ คือ หนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติซึ่งมีความสวยงาม โดดเด่น จนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยต้องนำมาประชาสัมพันธ์ในฐานะของแหล่งท่องเที่ยว “Unseen Thailand” ให้เป็นที่รู้จักกันเมื่อหลายปีก่อนที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ “ทะเลแหวก” นี้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลงต่ำจนทำให้แนวสันทรายใต้น้ำปรากฏขึ้นกลายเป็นทางเดินเชื่อมติดต่อกันระหว่างเกาะ 3 เกาะ ได้แก่ “เกาะไก่(หรือ เกาะหัวขวาน)” , “เกาะทัพ” และ “เกาะหม้อ” ซึ่งแท้จริงแล้วปรากฏการณ์ในลักษณะของทะเลแหวกเช่นนี้ยังเกิดขึ้น ณ สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลสำคัญ ๆ ในประเทศไทยอีกหลายแห่ง เช่น สันทรายที่เชื่อมระหว่าง “เกาะม้า” และ “อ่าวแม่หาด” บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี , ทางเดินติดต่อระหว่าง “เกาะนก” กับ “หาดท่าเขา” ของเกาะยาวน้อย จ.พังงา หรือ ยามเมื่อน้ำทะเลลดลงหน้า “หาดนพรัตน์ธารา” จ.กระบี่ จะเกิดแนวทรายทอดยาวออกไปยัง “เกาะเขาปากคลอง” เบื้องหน้า เป็นต้น

ทิวทัศน์โดยรอบบริเวณ "ทะเลแหวก"น้ำทะเลใสแจ๋วจนสามารถมองเห็นแมงกะพรุนตัวเขื่องได้อย่างชัดเจน

สันทรายสีขาวนวลค่อย ๆ โผล่ขึ้นเหนือท้องทะเลกว้าง เชื่อมต่อ เกาะหม้อ - เกาะทัพ - เกาะไก่ ให้กลายเป็นหนึ่ง

"ทะเลแหวก" ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันงดงาม ณ หมู่เกาะปอดะ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่

    แม้ว่าเหตุการณ์ที่น้ำทะเลลดลงและมีแนวสันทรายใต้น้ำโผล่ขึ้นมาจนดูคล้ายกับว่าห้วงมหาสมุทรถูกแหวกออกเป็น 2 – 3 ส่วนนี้จะมีให้พบเห็นกันได้ในหลายจังหวัดดังที่ได้กล่าวพาดพิงถึงมาแล้วข้างต้น แต่ทำไมเมื่อเอ่ยถึงทะเลแหวกคนส่วนใหญ่จึงมักจะนึกถึง “ทะเลแหวก” ของ จ.กระบี่ ขึ้นมาก่อนสถานที่อื่น ๆ ? ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) สันนิษฐานคำตอบเอาเองว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะการประชาสัมพันธ์อย่างอึกทึกครึกโครมของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงทำให้ “ทะเลแหวก” จ.กระบี่ กลายเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นวงกว้าง และอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งน่าจะสำคัญกว่าก็คือ บริเวณโดยรอบ “ทะเลแหวก” จ.กระบี่แห่งนี้มีสภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม น้ำทะเลใสแจ๋วจนสามารถมองเห็นพื้นทรายใต้น้ำได้ชัดเจน รวมถึงยังมีโขดหินเล็ก ๆ และแนวปะการังน้ำตื้นกระจายตัวอยู่เป็นหย่อม ๆ ให้นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำดูปูดูปลาเล่นได้เพลิน ๆ อีกด้วย (จากประสบการณ์ตรงของทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมพบว่า ปรากฏการณ์ที่คล้าย ๆ กับทะเลแหวกในจังหวัดอื่น ๆนั้น สภาพของน้ำทะเลโดยรอบแนวสันทรายซึ่งโผล่ขึ้นมาจะไม่ใสและไม่สวยงามเท่ากับ “ทะเลแหวก” จ.กระบี่ ครับ)

    ดังที่ได้กล่าวไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่าปรากฏการณ์ทะเลแหวกนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงเวลาซึ่งน้ำทะเลลดลงต่ำ เพราะฉะนั้นสภาพที่แนวสันทรายใต้น้ำโผล่ขึ้นมาให้เห็นเหนือผืนทะเลกว้างนั้นจะไม่คงอยู่ตลอดไปและในวันหนึ่ง ๆ จะสามารถมองเห็นทะเลแหวกได้อย่างชัดเจนเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น (ในบางเดือนที่น้ำทะเลหนุนสูงอาจจะไม่สามารถมองเห็นทะเลแหวกได้ตลอดทั้งวันเลยก็มีครับ) นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการเดินทางมาชมความงดงามของทะเลแหวกจะมีทางเลือกหลัก ๆ อยู่ 2 – 3 แบบ ได้แก่

    1.ซื้อตั๋วเรือร่วมจากสหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อซื้อตั๋วเรือหางยาวไปยังทะเลแหวก – หมู่เกาะปอดะได้ ณ จุดบริการของสหกรณ์เรือหางยาวฯบริเวณ “อ่าวนาง” หรือ “หาดนพรัตน์ธารา” จ.กระบี่ ซึ่งเรือจะออกเดินทางเมื่อมีนักท่องเที่ยวซื้อตั๋วจนครบ 7 คน/เรือ 1 ลำเท่านั้น โดยเรือเที่ยวแรกจะเริ่มออกเวลาประมาณ 8.00 – 8.30 น. (หากนักท่องเที่ยวไม่ครบจำนวนเรือก็จะไม่ออก) นักท่องเที่ยวสามารถเลือกจุดหมายปลายทางได้เพียง 1 แห่งจาก 3 เกาะ คือ เกาะไก่ , เกาะทัพ หรือ เกาะปอดะ สำหรับเกาะหม้อนั้นอยู่ห่างจากเกาะทัพเพียงแค่ไม่ถึง 100 เมตร นักท่องเที่ยวซึ่งเลือกจุดหมายปลายทางลงเรือที่เกาะทัพจึงเหมือนกับได้ไปเกาะหม้ออยู่แล้ว ส่วนขากลับนั้นสามารถเลือกขึ้นเรือของสหกรณ์ฯลำใดก็ได้แต่ต้องเดินทางออกจากเกาะก่อนเวลาประมาณ 15.00 – 15.30 น.(เรือเที่ยวกลับต้องรอจนกว่านักท่องเที่ยวจะขึ้นเรือครบ 7 คนจึงจะออกเช่นเดียวกับเรือเที่ยวไป)

ชายหาดงามน้ำทะเลใสจนใคร ๆ ก็อยากมาเยี่ยมเยือน

แสนสุขนักหนาได้มา "ทะเลแหวก" .....โอ้ว....เย้!!.....

    วิธีนี้มีข้อดี คือ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวเล่นอยู่บนเกาะปลายทางซึ่งตนเองเลือกซื้อตั๋วได้หลายชั่วโมง สำหรับข้อเสียนั้น ได้แก่ นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถทราบเวลาออกเรือที่แน่นอนได้ และหากไปถึงเกาะซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในช่วงเวลาน้ำขึ้นล่ะก็ นักท่องเที่ยวอาจจะตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า “ติดเกาะ” เพราะทะเลไม่แหวกเป็นทางเชื่อมให้เดินติดต่อกันระหว่างเกาะได้ ทำให้ต้องเที่ยวเล่นอยู่เฉพาะบริเวณเกาะซึ่งตนเองเลือกเป็นจุดหมายปลายทางเท่านั้น (ท่านสามารถตรวจสอบราคาตั๋วเรือของสหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนางได้โดยการ Click link ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในหน้า 2 ของบทความชิ้นนี้ครับ)

    2.ซื้อโปรแกรมทัวร์จากเว็บไซต์หรือจากตัวแทนของบริษัททัวร์ต่าง ๆ ทางเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาไม่มากนักและต้องการท่องเที่ยว “หมู่เกาะปอดะ” ให้ครบถ้วนทั้ง 4 เกาะ ( “หมู่เกาะปอดะ” ประกอบไปด้วยเกาะสำคัญ ๆทั้งหมด 4 เกาะ ได้แก่ เกาะปอดะ ,เกาะไก่ ,เกาะทัพ และ เกาะหม้อ ส่วน “ทะเลแหวก” นั้นก็คือสันทรายที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะไก่ – เกาะทัพ – เกาะหม้อ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะปอดะนั่นเองครับ) ซึ่งปกติแล้วโปรแกรมทัวร์ของบริษัทต่าง ๆ นั้นจะมีให้เลือกทั้งทัวร์เรือหางยาวและทัวร์เรือเร็ว(speed boat)โดยจะไม่มีความแตกต่างกันของโปรแกรมทัวร์ระหว่างแต่ละบริษัทมากนัก

"เกาะไก่" หรือ "เกาะหัวขวาน" ที่มีรูปลักษณะสมชื่อ

ลองเอาเปลือกสับปะรดมาล่อปลา ณ จุดดำน้ำตื้นใกล้ ๆ กับ "ทะเลแหวก"

    3.เช่าเหมาเรือหางยาว/เรือเร็ว นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่หรือต้องการความเป็นส่วนตัวในการท่องเที่ยวอาจเลือกใช้วิธีเช่าเหมาเรือหางยาวจากสหกรณ์เรือหางยาวฯ หรือจะติดต่อเช่าจากบริษัททัวร์ต่าง ๆ ก็ได้ (เรือหางยาวของสหกรณ์เรือหางยาวฯ สำหรับการเช่าเหมาลำทัวร์ทะเลแหวก – หมู่เกาะปอดะ ½ วันจะจำกัดให้นักท่องเที่ยวโดยสารได้ไม่เกิน 4 คน/ลำ และสำหรับการเช่าเหมาลำเต็มวันจะจำกัดให้นักท่องเที่ยวโดยสารได้ไม่เกิน 6 คน/ลำ ส่วนบริษัททัวร์ต่าง ๆ จะจำกัดให้นักท่องเที่ยวโดยสารได้ไม่เกิน 8 – 15 คน/ลำ โดยบริษัททัวร์ส่วนมากจะเลือกใช้เรือหางยาวซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเรือของสหกรณ์เรือหางยาวฯครับ) ส่วนเรือเร็ว (speed boat) นั้นต้องติดต่อเช่าจากบริษัททัวร์หรือตัวแทนของบริษัทเท่านั้น (ท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดและราคาปัจจุบันของเรือหางยาว/เรือเร็วเช่าเหมาลำทัวร์ทะเลแหวก – หมู่เกาะปอดะได้โดยการ Click link ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในหน้า 2 ของบทความชิ้นนี้ครับ)

    สำหรับการเช่าเรือหางยาว/เรือเร็วแบบเหมาลำนี้มีข้อดี คือ เป็นทางเลือกซึ่งประหยัดมากกว่าสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ แถมยังมีอิสระในการปรับเปลี่ยนเวลาการท่องเที่ยวตามจุดสำคัญต่าง ๆ ได้ตามความสมัครใจของคนในกลุ่มอีกด้วย ข้อเสีย คือ ในช่วงวันหยุดเทศกาลหรือวันหยุดต่อเนื่องอาจจะหาเรือเช่าเหมาลำได้ลำบากหากไม่ติดต่อเอาไว้ก่อนตั้งแต่เนิ่น ๆ และเป็นทางเลือกที่อาจจะไม่คุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพียงแค่ 3 – 4 คน